ทำกล่องกระดาษ สำหรับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ มีขั้นตอนอย่างไร

ค้นพบความน่าสนใจของการทำกล่องกระดาษในโรงงานผลิตกล่องกระดาษ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงการผลิตกล่องกระดาษ เพื่อนำมาใช้เป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับใช้ใส่สินค้าต่างๆ ได้ตามต้องการ

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่ากล่องบรรจุภัณฑ์ของแต่ละสินค้านั้นผลิตขึ้นได้อย่างไร? ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป! เพราะในบทความนี้ เราจะพาคุณมาดูกระบวนการอันน่าทึ่งของการผลิตกล่องกระดาษในโรงงาน ตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงขั้นตอนการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ คุณจะได้รู้ทั้งหมดเกี่ยวกับกระบวนการสร้างกล่องกระดาษที่สมบูรณ์แบบสำหรับนำไปใช้เป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ให้กับสินค้าต่างๆ ว่าแล้วไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

ขั้นตอนการทำกล่องกระดาษ มีอะไรบ้าง

กว่าจะมาเป็นกล่องกระดาษ หรือ กล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่สินค้าสักชิ้นหนึ่งนั้น ต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนการผลิตที่หลากหลาย ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมวัสดุกระดาษ

ขั้นตอนแรกของการทำกล่องกระดาษคือการเตรียมวัสดุ ซึ่งส่วนประกอบหลักในการผลิตกล่องกระดาษก็คือกระดาษที่มีหลายประเภทให้เลือกใช้ ซึ่งกระดาษที่ใช้ทำกล่องบรรจุภัณฑ์โดยทั่วไปทำจากเยื่อไม้ซึ่งแปรรูปเป็นแผ่นกระดาษที่มีขนาดและความหนาต่างๆ โดยที่นิยมใช้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ได้แก่ กระดาษอาร์ตการ์ด กระดาษคราฟท์ กระดาษกล่องแป้งหลังเทา และ กระดาษกล่องแป้งหลังขาว และเมื่อถึงเวลาที่จะเริ่มทำกล่องกระดาษ แผ่นกระดาษจะถูกนำไปที่สายการผลิต ซึ่งจะถูกตัดเป็นขนาดและรูปร่างที่เหมาะสมสำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์

ขั้นตอนที่ 2: การออกแบบและการพิมพ์กล่อง

หลังจากตัดแผ่นกระดาษให้ได้ขนาดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการออกแบบและการพิมพ์กล่อง ซึ่งจะทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ โดยสามารถออกแบบกล่องให้เหมาะกับสินค้าได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะใส่โลโก้ ใส่ชื่อแบรนด์ ภาพประกอบ หรือข้อความต่างๆ ที่ตรงกับสินค้าและแบรนด์ของคุณ

จากนั้นจะเริ่มสู่ขั้นตอนการพิมพ์กล่อง โดยจะมีเครื่องพิมพ์ระบบ 4 สี 2 ประเภท คือเครื่องพิมพ์ระบบออฟเซ็ท ที่ต้องใช้เพลทแม่พิมพ์ และเครื่องพิมพ์ระบบดิจิตอล ที่สั่งพิมพ์ได้ทันทีจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งทั้งสองระบบต่างก็พิมพ์สีสันสดใส ให้ภาพและรายละเอียดที่คมชัด ต่างกันที่ระบบอ๊อฟเซ็ทจะเหมาะกับงานพิมพ์จำนวนมาก 1,000 ใบขึ้นไป แต่หากเป็นระบบดิจิตอลจะเหมาะกับงานพิมพ์กล่องจำนวนน้อย

ขั้นตอนที่ 3: ใช้เทคนิคพิเศษ

หากต้องการเพิ่มความพิเศษให้กับกล่องกระดาษ สามารถใช้เทคนิคพิเศษเพิ่มเติมซึ่งถือเป็นการตกแต่งขั้นสุดท้าย ซึ่งได้แก่ การเคลือบลามิเนตแบบเงาหรือแบบด้าน เคลือบยูวี เคลือบฟอยล์ เคลือบสปอตยูวีเฉพาะจุด รวมถึงการปั๊มจม ปั๊มนูน ปั๊มฟอยล์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์มีความสวยงาม โดดเด่นมากขึ้น อีกทั้งการเคลือบกล่องยังช่วยเสริมให้กล่องกระดาษมีความแข็งแรงคงทนมากอีกด้วย

ขั้นตอนที่ 4: การตัดและพับกล่อง

ขั้นตอนต่อไปคือการตัดและพับกล่อง นี่คือขั้นตอนที่จะเปลี่ยนจากแผ่นกระดาษไปเป็นกล่องสามมิติ โดยกระบวนการตัดและพับทำได้โดยใช้เครื่องจักรที่เรียกว่าเครื่องตัดแบบไดคัท

ซึ่งเครื่องตัดไดคัทได้รับการตั้งโปรแกรมให้ตัดและพับแผ่นกระดาษตามการออกแบบของกล่อง เครื่องใช้ใบมีดคมตัดแผ่นกระดาษแล้วพับกระดาษเป็นรูปร่างของกล่อง เครื่องตัดไดคัทสามารถผลิตกล่องที่มีรูปทรงและขนาดต่างๆ ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า

ขั้นตอนที่ 5: ติดกาวและประกอบกล่อง

ขั้นตอนสุดท้ายของการทำกล่องกระดาษคือการติดกาวและประกอบกล่อง ซึ่งเป็นขั้นตอนการประกอบกล่องเข้าด้วยกันสำหรับพร้อมใช้งาน ซึ่งกระบวนการติดกาวและการประกอบทำได้โดยใช้เครื่องจักรพิเศษที่เรียกว่า เครื่องติดกาว ที่ได้รับการตั้งโปรแกรมให้ทากาวบนพื้นที่ที่เหมาะสมของกล่อง แล้วจึงประกอบกล่อง เครื่องนี้สามารถผลิตกล่องประเภทต่างๆ รวมถึงกล่องที่มีฝาปิดและคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ

ขั้นตอนที่ 6: การควบคุมคุณภาพ

ขั้นตอนสุดท้ายของการทำกล่องกระดาษคือการควบคุมคุณภาพ ขั้นตอนนี้ทำให้มั่นใจได้ว่ากล่องบรรจุภัณฑ์จะเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดและไม่มีข้อบกพร่อง โดยแต่ละกล่องจะได้รับการตรวจสอบปัญหาต่างๆ เช่น การพิมพ์ที่ไม่ถูกต้อง การตัดที่ไม่สม่ำเสมอ และข้อบกพร่องของการติดกาว เป็นต้น

บทสรุป

และนี่ก็คือ ขั้นตอนการทำกล่องกระดาษที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าเพื่อนๆ จะสนุกสนานกับข้อมูลต่างๆ ที่เรานำมาฝากกัน ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอาหาร เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ กล่องกระดาษ หรือ กล่องบรรจุภัณฑ์ ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนำไปใช้งานได้หลากหลาย ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณเห็นกล่องกระดาษ คุณจะรู้ว่าต้องใช้ความพยายามมากเพียงใดในการสร้างมันขึ้นมา

ทั้งนี้หากใครที่ต้องการสั่งผลิตกล่องกระดาษ หรือ กล่องบรรจุภัณฑ์ เช่น กล่องสบู่ กล่องครีม กล่องเครื่องสำอาง กล่องอาหารเสริม กล่องอาหาร กล่องขนม สามารถติตด่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเราได้ที่ 094-364-6396 หรือแอดไลน์มาคุยกับเราได้ง่ายๆ เพียง คลิกที่นี่